เคล็ดลับการดูเเลผิวหลังทำ PICO เผยผิวใส ไร้ริ้วรอย

เคล็ดลับการดูเเลผิวหลังทำ PICO

“ เผยผิวใส ไร้ริ้วรอย ด้วยการดูแลอย่างถูกวิธี ”

พิโคเซคเคิน เลเซอร์ (Picosecond Laser) คือ นวัฒกรรมเครื่องเลเซอร์ตัวใหม่ล่าสุดที่ได้นำเทคโนโลยีด้านการรักษาเรื่องผิวโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถรักษาได้ทั้ง ฝ้า กระ จุดด่างดำ หลุมสิว ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใสไร้ริ้วรอย แม้กระทั่งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยตัวเครื่องจะปล่อยพลังงานเลเซอร์ในระดับความถี่ Picosecond ที่มีความเร็วกว่า 1 ต่อล้านล้านวินาที และยิงได้อย่างแม่นยำ เฉพาะเจาะจงกับจุดที่ยิง

โดยการรักษาด้วยตัวเครื่อง Pico Laser จะเข้าไปทำลายกลุ่มของเม็ดสีให้เกิดการแตกตัวและมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาส่งผลประสิทธิภาพดี เม็ดสีแตกตัวได้อย่างรวดเร็ว กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส  สามารถเห็นผลของการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เลเซอร์ และใช้เวลาน้อยกว่าการรักษาด้วยเคร่องเลเซอร์ในระบบเดิม

Picosecond Laser สามารถรักษาอะไรได้บ้าง

1. ลบรอยสัก
2. รักษาปัญหาจุดด่างดำ
3. ฟื้นฟูสภาพผิวหน้า ปรับสีผิวให้สว่างขึ้นและกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ
4. ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวหน้ากระชับแลดูเรียบเนียน
5. รักษาหลุมสิว หรือรอยแผลเป็นต่างๆ

การเตรียมตัวก่อนทำ PICO

1. ควรหยุดรับประทานยา สมุนไพร หรืออาหารเสริมบางชนิดที่อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด แม้กระทั่งยาแก้ปวดในกลุ่มแอสไพริน กระเทียมอัดเม็ด โสม แปะก๊วย วิตามินอีอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการรักษา
2. หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ลมชัก ผื่นแพ้แสง โรคหัวใจที่ต้องใช้เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ หรือมีประวัติแพ้ยาต่างๆ โดยเฉพาะยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการทำเลเซอร์ทุกครั้ง
3. ในวันที่เข้ารับบริการ กรุณางดใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ยาทารักษาสิว และควรล้างหน้าให้สะอาด
4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการทำเลเซอร์

การดูแลผิวหลังทำ PICO

1. 1. ไม่แนะนำให้ล้างหน้าและทาครีมบำรุงหลังทำเลเซอร์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังทำ เพราะอาจจะทำให้แผลหายช้า และหากหลังครบ 24 ชั่วโมง แล้วสามารถล้างทำความสะอาดได้ แต่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนมากๆ รวมถึงการสัมผัสหน้าอย่างเบามือในการทำความสะอาดผิวหน้า 
   2. กรณีมีแผล ไม่ควรโดนน้ำภายใน 2 วันหลังทำเลเซอร์ หากแผลโดนน้ำควรรีบซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
   3. หลังจากการทำเลเซอร์จะเป็นช่วงที่ผิวบอบบางได้ง่าย อาจจะเกิดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้นเราควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เป็นประจำทุกวัน (แม้ไม่ได้ทำเลเซอร์ พาขวัญคลินิกก็แนะนำว่าควรทากันแดดทุกวัน
   4. หลังการทำเลเซอร์แล้ว อาจจะทำให้รู้สึกร้อนบริเวณผิวหน้า  สามารถประคบเย็นได้ประมาณ 5 นาที เพื่อลดอุณภูมิของผิวและอาการแสบได้ รวมถึงยังช่วยลดรอยแดงหลังทำเลเซอร์ได้อีกด้วยทาครีมปฏิชีวนะ หรือขี้ผึ้งวาสลินบริเวณแผลตามคำสั่งแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
   5. ห้ามถู แกะ เกา หรือเล่นกีฬาที่อาจเกิดแรงปะทะหรือเสียดสีบริเวณที่เป็นแผลจากการเลเซอร์
   6. หากบริเวณแผล เกิดอาการผื่นบวม แดง มีตุ่มหนอง มีอาการปวดหรือคันมาก ควรรีบพบแพทย์
   7. สามารถเริ่มใช้เครื่องสำอางหรือทาครีมกันแดดได้ 1 สัปดาห์หลังจากการทำเลเซอร์ หรือจนกว่าสะเก็ดแผลจะหลุดออกจนหมด และแห้งดี
   8. หลีกเลี่ยงแสงแดด 2 สัปดาห์ หลังทำเลเซอร์ เพื่อให้ผิวหน้าได้ฟื้นฟู
   9. หลังจากการทำเลเซอร์จะเป็นช่วงที่ผิวบอบบางได้ง่าย อาจจะเกิดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้นเราควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เป็นประจำทุกวัน (แม้ไม่ได้ทำเลเซอร์ พาขวัญคลินิกก็แนะนำว่าควรทากันแดดทุกวัน

ผลข้างเคียงหลังทำ PICO

1. อาการปวด กดเจ็บ แสบร้อน สามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็น หรือรับประทานยาแก้ปวดชนิดรับประทานตามคำสั่งของแพทย์ หลังจากทานอย่างสม่ำเสมอแล้ว อาการแสบร้อนจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง
2. อาการบวมของผิวหนัง การเลเซอร์กรณีที่ไม่มีแผลเกิดขึ้น อาการบวมจะทุเลาลงภายใน 24 ชั่วโมง และการเลเซอร์กรณีมีแผลหรือลบรอยสักที่ทำให้ผิวหน้าเกิดการลอก บริเวณที่ทำจะมีอาการบวม และจะทุเลาลงภายใน 2-3 วัน
3. ผิวหนังมีสีแดงขึ้น การเลเซอร์กรณีไม่มีแผลจะสามารถเกิดขึ้นได้ชั่วคราว และมักจะหายไปภายใน 2-3 ชั่วโมง
4. สีผิวเข้มขึ้น อาจเกิดกับบริเวณที่รักษา ซึ่งจะจางลงภายในเวลา 2-6 เดือน กรณีนี้มักพบบ่อยกับผู้ป่วยที่มีผิวคล้ำ และจะเป็นมากขึ้นเมื่อบริเวณที่ได้รับการรักษาสัมผัสถูกแสงแดดจัด
5. สีผิวจางลง มักเกิดกับบริเวณที่ได้รับการรักษาหลายครั้ง หรือเกิดปฏิกิริยาตอบสนองของแสงเลเซอร์ และรอยจางนี้จะหายเป็นปกติได้ แต่อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือสีผิวจางลงถาวร ซึ่งกรณีนี้พบได้น้อย
6. รอยแผลเป็น กรณีนี้พบน้อยมาก แต่อาจเกิดขึ้นได้ในรายที่ผิวหนังถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง หรือผิวหนังที่มีการติดเชื้อ
7. การติดเชื้อ อาจเกิดจากการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่ทำหัตถการ หรืออาจเกิดจากการไม่รักษาความสะอาด รวมไปถึงการดูแลแผลที่ไม่ถูกวิธี การใช้ยาปฏิชีวนะหรือการดูแลรักษาแผลดีจะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อได้
8. อาการแพ้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแพ้ที่ผิวหนัง จากการลบรอยสักด้วยแสงเลเซอร์ หรืออาจเกิดการแพ้ยาปฏิชีวนะที่ใช้ทาผิวหนังได้ เนื่องจากผิวหนังบอบบางและไวกว่าปกติ