ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG บอกอะไรเราได้บ้าง

การตรวจ EKG คลื่นไฟฟ้าหัวใจบอกอะไรได้บ้าง?



EKG หรือ การวินิจฉัยโรคหัวใจ ด้วยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือที่เรียกว่า Electrocardiography เป็นการตรวจกระแสไฟฟ้าที่กล้ามเนื้อหัวใจผลิตออกมาขณะที่หัวใจบีบตัว เป็นวิธีการตรวจหาโรคหัวใจที่ง่าย ได้ผลดี ไม่เจ็บ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที เช่น

  • ความผิดปกติของเยื้อหุ้มหัวใจ ณ ขณะนั้นว่ามีความผิดปกติหรือไม่
  • รู้ถึงโครงสร้างหัวใจ ว่าห้องหัวใจห้องไหนเกิดความผิดปกติ เช่น หัวใจโตมากกว่าปกติ หรือมีความหนาตัวของห้องหัวใจมากกว่าปกติ
  • นอกจากนี้ยังเป็นการศึกษาการเต้นของหัวใจว่าเป็นการเต้นที่ผิดปกติหรือไม่ ช้าไปหรือว่าเร็วไป
  • และยังสามารถทราบถึงความผิดปกติของเส้นเลือดหัวใจว่ามีการตีบตันหรือไม่
  • นอกจากนี้กรณีคนไข้ที่ได้รับยาที่มีผลต่อหัวใจ จะเกิดความผิดปกติต่อไฟฟ้าหัวใจหรือไม่อย่างไร
  • และยังสามารถบ่งบอกถึงการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจ ซึ่งปัจจุบันเป็นอุปกรณ์ได้ได้รับการใช้งานมากขึ้น สำหรับคนไข้ที่มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ

ข้อดีของการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)


  • เป็นการตรวจที่ง่าย
  • ได้ผลที่เป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยโรคหลายอย่าง
  • ไม่มีข้อห้ามหรือข้ออันตรายที่จะส่งผลต่อคนไข้
  • ไม่ต้องเตรียมตัวก่อนและหลังการตรวจ
  • ใช้เวลาน้อยไม่เกิน 5 นาที
  • ไม่เกิดภาวะแรกซ้อนใด ๆ หลังการตรวจ บางรายอาจจะเจอจุดแดงเล็ก ๆ บริเวณที่ติดเครื่องมือในการตรวจ ซึ่งจุดแดงนี้ไม่ได้ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บ หรือระคายเคืองแต่อย่างใด และสามารถหายเองได้ภายใน 1-2 วัน
  • สามารถตรวจได้ทุกเพศทุกวัย

เมื่อได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้ว จะสามารถทำการบอกโรคได้ทันที สามารถบอกได้เลยว่าพบความผิดปกติต่อหัวใจอะไรบ้าง แต่หากผลออกมาว่าคนไข้ไม่มีอาการ ก็จะไม่ได้ยืนยัน 100% ว่าคนไข้จะไม่มีความผิดปกติของหัวใจ จำเป็นต้องไปทำการสืบค้นเรื่องของโรคหัวใจต่อ ในกรณีที่แพทย์ที่ทำการตรวจยังมีความสงสัยว่าคนไข้จะมีปัญหาด้านโรคหัวใจมาก ๆ เช่น กรณีคนไข้มีอาการใจสั่น แต่พอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ กลับไม่พบความผิดปกติเกี่ยวกับไฟฟ้าหัวใจ ณ ขณะนั้น คุณหมอก็อาจจะแนะนำให้คนไข้ตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 24 ชั่วโมง ซึ่งจะสามารถเก็บข้อมูลทางกราฟไฟฟ้าหัวใจของคนไข้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงว่ามีความผิดปกติหรือไม่ กรณีคนไข้มีอาการเจ็บแน่น หน้าอก และเป็นกรณีเจ็บแน่นหน้าอก ขณะออกแรง การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ณ ขณะที่คนไข้พักอยู่ไม่ได้ออกแรง อาจทำให้ตรวจไม่เจอความผิดปกติ ซึ่งคุณหมออาจจะแนะนำให้ตรวจการเดินหรือวิ่งสายพาน Exercise Stress Test (EST) หรือถ้าสงสัยว่าคนไข้อาจมีโครงสร้างหัวใจที่ผิดปกติ เช่น ดูลักษณะของกราฟไฟฟ้า แล้วเห็นว่าห้องหัวใจมีความผิดปกติ ก็สามารถส่งคนไข้ไปตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูง หรือ Echocardiograohy