7 ข้อดีเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

 


การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและพัฒนาการของทารกในระยะยาว นมแม่เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาของทารก ขวบ โดยเฉพาะการได้ที่ลูกน้อยได้รับนมแม่ตั้งแต่ 1-3 วันแรกหลังคลอด ในบทความนี้ เราจะสำรวจถึงประโยชน์ต่างๆ ที่นมแม่มีต่อสุขภาพของลูกน้อย


นมหยดแรก = วัคซีนหยดแรก

แลคโตเฟอร์ริน คือโปรตีนในนมแม่ที่จะพบได้มากที่สุดในน้ำนมเหลือง หรือน้ำนมระยะแรกที่จะไหลออกมาใน 1-3 วันแรกหลังคลอด ซึ่งทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา จึงช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย 


นมน้ำแม่มี 3 ระยะ

น้ำนมแม่ ที่ร่างกายแม่ผลิตได้โดยตามธรรมชาติ แบ่งเป็น 3 ระยะด้วยกัน โดยไม่ว่าจะเป็นระยะใด ก็ตามล้วนดีต่อสุขภาพลูกทั้งสิ้น ได้แก่

  1. ระยะนมสีเหลือง (Colostrum)  เกิดใน 24-36 ชั่วโมงแรกหลังคลอด

น้ำนมจะมีสีเหลือง มีแคโรทีนสูงกว่านมระยะหลังมากประกอบไปด้วยโปรตีนต่างๆ ที่ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของสมองและการมองเห็นของลูก


  1. ระยะนมปรับเปลี่ยน (Transitional Milk) 

เมื่อผ่านช่วง 5 วัน ถึง 2 สัปดาห์แรก น้ำนมจะเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น  ซึ่งจะมีสารอาหารเพิ่มขึ้นทั้งไขมันและน้ำตาลที่มีปริมาณเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย


  1. ระยะน้ำนมแม่ (Mature Milk)

เมื่อผ่านช่วง 2 สัปดาห์แรกแล้ว น้ำนมแม่จะมีปริมาณที่มากขึ้น และมีสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูก ได้แก่

    1. โปรตีน ที่มีส่วนช่วยในการยับยั้งจากเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด เพิ่มภูมิต้านทาน และเอนไซม์ที่สามารถทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรียได้
    2. ไขมัน ที่เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ DHA (Docosahexaenoic Acid) และ AA (Arachidonic Acid) ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบประสาทและการมองเห็น
    3. น้ำตาลแลคโตส โดยพบว่าในนมแม่มีโอลิโกแซคคาไรด์หรือคาร์โบไฮเดรตสายสั้น (Human Milk Oligosaccharides หรือ HMOs) มากกว่า 200 ชนิด และมีปริมาณมากกว่าปริมาณที่พบในนมวัวถึง 5 เท่า และยังพบอีกว่า HMOs ในน้ำนมแม่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้
    4. วิตามินและแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต ได้แก่ A, B1, B2, B6, B12, C, D, E, K และแร่ธาตุซึ่งได้แก่ เหล็ก แคลเซียม ไอโอดีน เป็นต้น

นอกจากนี้ในน้ำนมแม่ยังมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย ได้แก่ แอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) โกรทแฟคเตอร์ (Growth Factor) ที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบทางเดินลำไส้ เส้นเลือด ระบบประสาท และระบบฮอร์โมนที่ควบคุมการเจริญเติบโต


7 ข้อดีของการให้ลูกกินนมแม่

1.ประโยชน์ของนมแม่ต่อระบบภูมิคุ้มกันของลูก

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในทารก ทำให้ทารกมีความต้านทานต่อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่วงวัยเด็ก การได้รับนมแม่เป็นเวลานานยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ และโรคหูน้ำหนวก

2.การเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูก

นมแม่มีสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกทั้งทางร่างกายและสมอง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังช่วยให้ทารกมีพัฒนาการทางสมองที่ดีขึ้น เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารที่ส่งเสริมการพัฒนาของระบบประสาท

3.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับการสร้างสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูก ทำให้แม่และลูกมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตของแม่และลูก ทำให้มีความสุขและลดความเครียด

4.ประโยชน์ต่อสุขภาพระยะยาว

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาทางกายภาพและจิตใจของทารกในระยะยาว

5.นมแม่กับการป้องกันโรค

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนในวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันโรคเบาหวานและโรคหัวใจในระยะยาว

7.ประโยชน์ต่อตัวคุณแม่

สำหรับตัวคุณแม่เอง การให้ลูกกินนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และเบาหวาน 


ให้ลูกกินนมแม่ได้ถึงอายุเท่าไหร่

โดยระยะเวลาของการกินนมแม่ยาวนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณแม่และลูก ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเด็กที่จะกินนมแม่เป็นเวลานานๆ แม้ว่าเราจะเคยชินกับทารกที่กินนมแม่ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน เด็กโตอาจจะกินนมแม่ไม่บ่อยมากเหมือนเดิม และการหย่านมจากเต้าอาจจะใช้ระยะเวลายาวนาน เพราะเด็กผูกพันกับแม่ และรู้สึกมั่นคง อบอุ่นใจเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดแม่นั่นเอง


โดยองค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดังนี้

  1. ควรให้นมแม่ทันทีในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
  2. ควรให้นมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด
  3. ควรให้นมแม่ต่อเนื่อง ควบคู่กับอาหารเสริมที่ปลอดภัย มีคุณค่าและเหมาะกับอายุ ตั้งแต่เดือนที่ 6 ไปจนถึงลูกอายุ 2 ขวบ หรือนานกว่า